การชำระมลทินเมื่อหายจากโรคติดต่อทางผิวหนัง

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ต่อไปนี้เป็นระเบียบสำหรับผู้ที่หายจากโรคติดต่อทางผิวหนัง เมื่อเขามาหาปุโรหิตและรับการชำระให้สะอาดตามระเบียบพิธี ปุโรหิตจะออกไปนอกค่ายพักเพื่อตรวจดูคนนั้น หากเห็นว่าหายโรคแล้ว ปุโรหิตจะสั่งให้นำนกสองตัวที่ไม่เป็นมลทินและยังมีชีวิต ไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบ สำหรับใช้ในพิธีชำระคนนั้นให้สะอาด ปุโรหิตจะสั่งให้ฆ่านกตัวหนึ่งเหนือน้ำสะอาดที่อยู่ในภาชนะดินเผา นำนกอีกตัวหนึ่งซึ่งยังมีชีวิตพร้อมกับไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบจุ่มลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำสะอาด จากนั้นปุโรหิตจะพรมเลือดที่ตัวคนนั้นเจ็ดครั้ง แล้วประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน และปล่อยนกที่มีชีวิตตัวนั้นไปในที่กลางแจ้ง

“คนที่ได้รับการชำระให้สะอาดนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน โกนผม และอาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาดตามระเบียบพิธี หลังจากนั้นให้เขากลับมาอาศัยอยู่ในค่ายพักอีกครั้ง แต่จะต้องอยู่นอกเต็นท์ของตนเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดเขาจะโกนผม หนวด เครา และคิ้ว ซักเสื้อผ้า อาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาด

10 “ในวันที่แปด เขาต้องนำลูกแกะตัวผู้สองตัวซึ่งไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งขวบไม่มีตำหนิหนึ่งตัว แป้งโม่ละเอียดประมาณ 6.5 ลิตร[a]เคล้าน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตร[b] 11 ปุโรหิตผู้ทำหน้าที่ตรวจโรคจะนำคนนั้นพร้อมด้วยเครื่องบูชาของเขาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ

12 “จากนั้นปุโรหิตจะถวายแกะผู้ตัวหนึ่งและน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตรเป็นเครื่องบูชาลบความผิดโดยยื่นถวายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย 13 ปุโรหิตจะฆ่าแกะตัวนั้นในที่บริสุทธิ์ตรงบริเวณที่ฆ่าเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาลบความผิดนี้เป็นของปุโรหิตเช่นเดียวกับเครื่องบูชาไถ่บาป เป็นของที่บริสุทธิ์ที่สุด 14 ปุโรหิตจะเอาเลือดของเครื่องบูชาลบความผิดแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนที่จะได้รับการชำระ 15 จากนั้นปุโรหิตจะรินน้ำมันลงในอุ้งมือซ้าย 16 เอานิ้วชี้ขวาจุ่มน้ำมันนั้นพรมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเจ็ดครั้ง 17 ปุโรหิตจะใช้น้ำมันที่เหลืออยู่บางส่วนแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น ซ้ำบนรอยเลือดของเครื่องบูชาลบความผิด 18 แล้วเอาน้ำมันที่เหลือในฝ่ามือทาศีรษะของคนที่จะได้รับการชำระ และลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

19 “แล้วปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาไถ่บาป และลบบาปให้คนที่จะได้รับการชำระนั้นให้พ้นจากมลทินของเขา หลังจากนั้นปุโรหิตจะฆ่าสัตว์สำหรับเครื่องเผาบูชา 20 นำไปถวายพร้อมกับเครื่องธัญบูชาบนแท่นบูชาเป็นการลบบาปให้ผู้นั้น และเขาก็จะสะอาด

21 “หากเขายากจนเกินกว่าจะนำแกะสองตัวมาถวาย ก็ให้เขานำลูกแกะตัวผู้มาเพียงตัวเดียวเป็นเครื่องบูชาลบความผิดเพื่อยื่นถวายเป็นการลบบาปให้เขา โดยถวายพร้อมกับแป้งละเอียดประมาณ 2 ลิตร[c]เคล้ากับน้ำมันเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตร[d] 22 และนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวแล้วแต่จะหานกชนิดใดได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา

23 “ในวันที่แปดเขาต้องนำสิ่งเหล่านี้มาให้ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อการชำระ 24 ปุโรหิตจะเอาแกะสำหรับเครื่องบูชาลบความผิดกับน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตรมาเป็นเครื่องบูชายื่นถวายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 25 แล้วฆ่าลูกแกะนั้นเป็นเครื่องบูชาลบความผิด เอาเลือดแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา กับนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น 26 ปุโรหิตจะเทน้ำมันใส่อุ้งมือซ้าย 27 และเอานิ้วชี้ขวาจุ่มน้ำมันนั้นพรมเจ็ดครั้งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 28 จากนั้นจะเอาน้ำมันนี้แตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เขาแตะเลือดของเครื่องบูชาลบความผิด 29 น้ำมันที่เหลืออยู่ในอุ้งมือจะใช้ทาบนศีรษะของคนที่ได้รับการชำระ เป็นการลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 30 จากนั้นเขาจะถวายนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัว แล้วแต่จะหานกชนิดใดได้ 31 ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ส่วนอีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชาถวายควบคู่กับเครื่องธัญบูชา ปุโรหิตจะลบบาปให้ผู้นั้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยวิธีนี้”

32 ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบเกี่ยวกับผู้ที่หายจากโรคติดต่อทางผิวหนังซึ่งไม่สามารถนำเครื่องบูชาตามปกติมาเพื่อใช้ในพิธีชำระนี้ได้

การชำระจากเชื้อรา

33 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า 34 “เมื่อเจ้าทั้งหลายไปถึงดินแดนคานาอันซึ่งเราจะยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า และเราให้มีเชื้อราแพร่กระจายในบ้านหลังใดหลังหนึ่งในดินแดนนั้น 35 เจ้าของบ้านซึ่งพบเชื้อราในบ้านของตนต้องไปแจ้งปุโรหิตว่า ‘ข้าพเจ้าได้เห็นบางสิ่งที่ดูเหมือนเชื้อราในบ้านของข้าพเจ้า’ 36 ปุโรหิตจะให้ขนของออกจากบ้านให้หมดก่อนเข้าตรวจ เพื่อทุกสิ่งในบ้านจะไม่ต้องถูกประกาศว่าเป็นมลทิน จากนั้นปุโรหิตจะเข้าไปตรวจดูในบ้าน 37 หากพบริ้วรอยเขียวหรือแดงที่ผนังบ้านซึ่งดูกินลึกลงไปในพื้นผนังบ้าน 38 ปุโรหิตจะปิดบ้านไว้เป็นเวลาเจ็ดวัน 39 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะกลับมาตรวจดูอีกครั้ง หากเชื้อราได้แพร่ขยายออกไปบนผนัง 40 ปุโรหิตจะสั่งให้รื้อหินส่วนที่ติดเชื้อออก และเอาไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 41 และสั่งให้ขัดถูผนังภายในบ้านให้ทั่วทุกซอกทุกมุม เศษผงเศษขยะก็ให้นำไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 42 แล้วให้เขาเอาหินก้อนอื่นมาแทนส่วนที่รื้อออกไป เอาปูนโบกผนังเสียใหม่

43 “แต่หากภายหลังมีเชื้อรากลับมาปรากฏในบ้านนั้นอีก 44 ปุโรหิตจะมาตรวจดูอีก และถ้าเชื้อราได้แพร่ขยายภายในบ้านหลังนั้น เชื้อรานั้นเป็นพิษ บ้านหลังนั้นเป็นมลทิน 45 ต้องรื้อบ้านหลังนั้นทิ้ง แล้วขนหิน ไม้ และปูนออกไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง

46 “ผู้ที่เข้าไปในบ้านขณะที่ยังปิดอยู่ จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 47 ผู้ที่นอนหรือกินอาหารในบ้านนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตน 48 แต่เมื่อปุโรหิตกลับมาตรวจดูและเชื้อรานั้นไม่ได้แพร่ขยายไปหลังจากโบกปูนใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็จะประกาศว่าบ้านหลังนั้นสะอาดเพราะเชื้อราได้หายไปแล้ว 49 ปุโรหิตจะประกอบพิธีชำระบ้านหลังนั้นโดยใช้นกสองตัว ไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบ 50 เขาจะฆ่านกตัวหนึ่งเหนือน้ำสะอาดที่อยู่ในภาชนะดินเผา 51 แล้วจุ่มไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ ด้ายแดง และนกอีกตัวซึ่งยังมีชีวิตลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำสะอาด เอาเลือดพรมที่ตัวบ้านเจ็ดครั้ง 52 ปุโรหิตจะชำระบ้านหลังนั้นด้วยเลือดของนก น้ำสะอาด นกที่มีชีวิต ไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ และด้ายแดง 53 แล้วปุโรหิตจะปล่อยนกที่ยังมีชีวิตไปในที่กลางแจ้งนอกเมือง ปุโรหิตจะลบมลทินของบ้านด้วยวิธีนี้ และบ้านนั้นก็จะสะอาด”

54 ทั้งหมดนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับโรคติดต่อทางผิวหนังชนิดต่างๆ สำหรับโรคคัน 55 สำหรับเชื้อราบนเสื้อผ้าหรือในบ้าน 56 และสำหรับรอยบวม ผื่น หรือตุ่มใส 57 เพื่อตัดสินว่าสิ่งใดสะอาดหรือเป็นมลทิน นี่คือกฎระเบียบสำหรับโรคติดต่อทางผิวหนังและเชื้อรา

Footnotes

  1. 14:10 ภาษาฮีบรูว่า สามในสิบเอฟาห์
  2. 14:10 ภาษาฮีบรูว่า 1 ลก เช่นเดียวกับข้อ 12
  3. 14:21 ภาษาฮีบรูว่า หนึ่งในสิบเอฟาห์
  4. 14:21 ภาษาฮีบรูว่า 1 ลก เช่นเดียวกับข้อ 24

14 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ต่อไปนี้เป็นกฎสำหรับคนเป็นโรคเรื้อนในวันชำระตนให้สะอาด ต้องให้คนพาเขามาหาปุโรหิต และปุโรหิตต้องออกไปนอกค่ายเพื่อตรวจดูตัว หากคนที่เป็นโรคหายจากโรคเรื้อนแล้ว[a] ปุโรหิตต้องสั่งให้นำนกมีชีวิตที่ถือว่าสะอาดตามพิธีกรรมมา 2 ตัว ไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะย้อมสีแดงสด และก้านหุสบ ปุโรหิตสั่งให้เขาฆ่านกตัวหนึ่งที่อ่างดินเผาที่บรรจุน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำพุ ให้จุ่มนกอีกตัวที่มีชีวิตอยู่ลงในเลือดนกที่ถูกฆ่าซึ่งผสมกับน้ำ พร้อมกับไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะสีแดงสด และก้านหุสบ ปุโรหิตต้องประพรมเลือดลงบนตัวคนที่จะถูกชำระให้สะอาดจากโรคเรื้อน 7 ครั้ง และประกาศว่าเขาสะอาด แล้วปล่อยนกให้บินไปสู่ทุ่งกว้าง คนที่ถูกชำระตัวจะต้องซักเครื่องแต่งกายของตน โกนผมและขนทั้งตัว แล้วก็อาบน้ำ จึงจะถือว่าเขาสะอาด หลังจากนั้นเขาจะเข้ามาในค่าย แต่จะอยู่นอกกระโจมของเขา 7 วัน ในวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผมให้หมด โกนเคราและคิ้ว โกนขนให้หมด เขาต้องซักเครื่องแต่งกายและอาบน้ำ จึงจะถือว่าเขาสะอาด

10 ในวันที่แปด เขาต้องนำลูกแกะตัวผู้ 2 ตัวปราศจากตำหนิ และแกะสาวอายุ 1 ปีปราศจากตำหนิ และแป้งสาลีชั้นเยี่ยมสามส่วนสิบเอฟาห์ผสมกับน้ำมันเป็นเครื่องธัญญบูชา และน้ำมันอีก 1 ถ้วยตวง 11 ปุโรหิตผู้ทำพิธีชำระตัวต้องนำชายผู้นั้นพร้อมกับสิ่งเหล่านี้มา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย 12 ปุโรหิตต้องเอาลูกแกะตัวผู้ 1 ตัวมอบเป็นของถวายเพื่อไถ่โทษพร้อมกับน้ำมัน 1 ถ้วยตวง โบกขึ้นลงเป็นเครื่องโบกถวาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 13 เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวผู้ในที่บริสุทธิ์ อันเป็นที่เดียวกับที่เขาฆ่าสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายและเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป ของถวายเพื่อไถ่โทษเป็นของปุโรหิต เช่นเดียวกับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปซึ่งถือเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด 14 ปุโรหิตจะต้องเอาเลือดจากของถวายเพื่อไถ่โทษมาป้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวา 15 ปุโรหิตจะต้องเอาน้ำมันจากถ้วยตวงเทใส่มือซ้ายของตน 16 และปุโรหิตใช้นิ้วมือขวาจุ่มน้ำมันในมือซ้าย ประพรม 7 ครั้ง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 17 ให้ปุโรหิตป้ายน้ำมันจากมือซ้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวา ป้ายทับเลือดที่ได้จากของถวายเพื่อไถ่โทษ 18 ให้ปุโรหิตทาน้ำมันที่เหลือในมือ ลงบนหัวของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด แล้วปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 19 ปุโรหิตจะต้องมอบเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และทำพิธีชดใช้บาปให้คนที่จะรับการชำระตัวจากการเป็นมลทิน หลังจากนั้นเขาก็จะฆ่าสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย 20 ปุโรหิตจะมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายและเครื่องธัญญบูชาบนแท่นบูชา เพื่อปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา และจึงจะถือว่าเขาสะอาด

21 แต่ถ้าเขายากจนและไม่สามารถหามาถวายได้มาก เขาต้องมอบลูกแกะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับของถวายเพื่อไถ่โทษเพื่อโบกขึ้นลงอันเป็นพิธีชดใช้บาป และแป้งสาลีชั้นเยี่ยมหนึ่งส่วนสิบเอฟาห์ผสมกับน้ำมันเป็นเครื่องธัญญบูชา และน้ำมัน 1 ถ้วยตวง 22 พร้อมด้วยนกเขา 2 ตัวหรือนกพิราบหนุ่ม 2 ตัวซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสามารถหามามอบให้ได้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และอีกตัวเป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย 23 ในวันที่แปดเขาต้องนำสิ่งเหล่านี้มามอบแก่ปุโรหิตสำหรับการชำระตัวให้สะอาดที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 24 แล้วปุโรหิตจะเอาลูกแกะสำหรับของถวายเพื่อไถ่โทษและน้ำมัน 1 ถ้วยตวง และเขาจะโบกของเหล่านี้ขึ้นลงเป็นเครื่องโบกถวาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 25 ปุโรหิตจะฆ่าลูกแกะสำหรับของถวายเพื่อไถ่โทษ และใช้เลือดลูกแกะป้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของเขา 26 ปุโรหิตจะต้องเทน้ำมันใส่มือซ้ายของตน 27 และปุโรหิตประพรมด้วยนิ้วชี้มือขวาซึ่งจุ่มน้ำมันในมือซ้าย 7 ครั้ง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 28 ให้ปุโรหิตป้ายน้ำมันจากมือซ้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวา ป้ายทับเลือดที่ได้จากของถวายเพื่อไถ่โทษ 29 ให้ปุโรหิตเทน้ำมันที่เหลือในมือลงบนหัวของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด แล้วปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 30 ปุโรหิตจะมอบนกเขาหรือนกพิราบหนุ่มเท่าที่เขาสามารถจะหามามอบให้ได้ 31 ตัวหนึ่งเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และอีกตัวสำหรับสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายพร้อมกับเครื่องธัญญบูชา ปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 32 นี่เป็นกฎบัญญัติสำหรับคนที่เป็นโรคเรื้อนที่ไม่สามารถหาเครื่องสักการะสำหรับการชำระตัวให้สะอาดได้”

33 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสและอาโรนว่า 34 “เมื่อเจ้าก้าวเข้าไปในดินแดนคานาอันซึ่งเรามอบให้เจ้าเป็นเจ้าของ และเราใส่เชื้อโรคเรื้อนในบ้านหลังหนึ่งในดินแดนที่เจ้าเป็นเจ้าของ 35 เจ้าของบ้านต้องไปบอกปุโรหิตว่า ‘ดูเหมือนว่ามีเชื้อโรคชนิดหนึ่งในบ้านของเรา’ 36 ปุโรหิตจะสั่งให้พวกเขาย้ายของทุกอย่างออกจากบ้านก่อนที่เขาจะเข้าไปตรวจดูเชื้อโรค มิฉะนั้นทุกสิ่งในบ้านจะถูกประกาศว่าเป็นมลทิน หลังจากนั้นปุโรหิตจะเข้าบ้านไปดู 37 เขาจะตรวจดูเชื้อโรค ถ้าเชื้อโรคเป็นจุดเขียวหรือแดงติดอยู่ที่ผนังบ้าน และถ้าดูเหมือนว่าจุดนั้นกินลึกลงไปใต้ผิวผนัง 38 ปุโรหิตก็จะต้องออกไปนอกประตูบ้าน และปิดประตูไว้ 7 วัน 39 เมื่อปุโรหิตกลับไปที่บ้านนั้นอีกในวันที่เจ็ด เพื่อดูว่าเชื้อโรคลามลึกเข้าไปในผนังบ้านหรือไม่ 40 แล้วปุโรหิตจะสั่งให้พวกเขารื้อหินที่ติดเชื้อออก และโยนทิ้งในที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 41 และเขาจะสั่งให้ขูดขัดรอบๆ ภายในบ้าน และขนปูนที่ขูดออกไปทิ้งในที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 42 และให้คนก่อหินขึ้นใหม่แทนหินเดิมแล้วโบกปูนปิดผนังเสีย

43 ถ้าเชื้อโรคยังคงแพร่กระจายในบ้านอีก หลังจากรื้อหินออกและขูดขัดบ้านโบกปูนแล้ว 44 ปุโรหิตต้องไปตรวจดู ถ้าเชื้อโรคแพร่กระจายในบ้าน แสดงว่ามีเชื้อโรคเรื้อนชนิดร้ายแรงอยู่ในบ้านและเป็นมลทิน 45 ให้คนรื้อบ้านหลังนั้นลง ทั้งหิน ไม้ และผนังปูนทั้งหมดให้เอาไปทิ้งในที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 46 นอกจากนั้นแล้ว ผู้ใดเข้าไปในบ้านระหว่างที่บ้านถูกปิดทิ้งไว้ ผู้นั้นจะเป็นมลทินจนถึงเย็น 47 ผู้ใดหลับนอนหรือรับประทานอยู่ที่บ้านนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน

48 ถ้าปุโรหิตมาตรวจดู และไม่มีเชื้อโรคแพร่กระจายในบ้านหลังจากโบกปูนใหม่ แล้วปุโรหิตก็จะประกาศว่าบ้านหลังนั้นสะอาด เพราะโรคหายแล้ว 49 การชำระบ้านให้สะอาดก็ให้เขาเอานกตัวเล็ก 2 ตัว ไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะย้อมสีแดงสดและก้านหุสบ 50 ฆ่านกตัวหนึ่งที่อ่างดินเผาที่บรรจุน้ำจากแหล่งน้ำพุ 51 เขาต้องจุ่มนกอีกตัวที่มีชีวิตลงในเลือดนกที่ถูกฆ่าและในน้ำจากแหล่งน้ำพุ พร้อมกับไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะสีแดงสด และก้านหุสบ และประพรมบ้าน 7 ครั้ง 52 การกระทำเช่นนี้ปุโรหิตจึงสามารถชำระบ้านให้สะอาดด้วยเลือดนกและน้ำจากแหล่งน้ำพุ ด้วยนกที่มีชีวิต ด้วยไม้ซีดาร์ ก้านหุสบและด้ายขนแกะสีแดงสด 53 และเขาจะปล่อยนกที่มีชีวิตให้บินออกไปจากเมืองไปสู่ทุ่งกว้าง เป็นพิธีลบล้างมลทินให้กับบ้าน และบ้านก็จะสะอาด”

54 นี่เป็นกฎบัญญัติอันเกี่ยวกับโรคเรื้อนชนิดต่างๆ เช่นโรคผิวคัน 55 โรคเรื้อนติดที่เครื่องแต่งกายหรือในบ้าน 56 และแผลบวม เป็นผื่นหรือเป็นจุด 57 เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมื่อใดจึงเป็นมลทินและเมื่อใดจึงสะอาด นี่เป็นกฎบัญญัติเกี่ยวกับโรคเรื้อน

กฎสำหรับคนที่หายจากโรคผิวหนัง

14 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ต่อไปนี้จะเป็นกฎสำหรับคนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงแต่หายดีแล้ว เขาต้องถูกนำตัวมาหานักบวช นักบวชต้องออกไปพบคนๆนั้นที่นอกค่าย และถ้าเขาตรวจดูคนๆนั้นแล้วพบว่า โรคผิวหนังของคนๆนั้นหายดีแล้ว นักบวชต้องสั่งให้เขานำนกป่าบริสุทธิ์มาสองตัว ไม้สนซีดาร์หนึ่งชิ้น เชือกสีแดงหนึ่งเส้น กิ่งหุสบ[a] หนึ่งกิ่ง สำหรับใช้ในพิธีชำระล้างให้เขาบริสุทธิ์ นักบวชต้องสั่งให้เอานกตัวหนึ่งมาฆ่าและให้เลือดของมันไหลลงไปในชามดินเผาที่อยู่เหนือน้ำที่ไหลอยู่ แล้วสั่งให้เอานกอีกตัวที่เหลือ มาพร้อมกับ ไม้สน เชือกแดง และกิ่งหุสบ แล้วเอานกตัวนั้นจุ่มลงในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่า ที่อยู่เหนือน้ำที่กำลังไหลนั้น ให้พรมเลือดลงไปเจ็ดครั้งบนตัวคนที่เข้าพิธีชำระจากโรคผิวหนังนั้น แล้วประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วนักบวชจะปล่อยนกตัวที่เหลืออยู่นั้นเป็นอิสระกลางท้องทุ่ง

แล้วคนที่ได้รับการประกาศให้เป็นคนบริสุทธิ์แล้ว ต้องเอาเสื้อของเขาไปซักล้าง โกนผมให้เกลี้ยงและอาบน้ำ แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์ หลังจากนั้นเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในค่ายได้ แต่ต้องอยู่นอกเต็นท์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผม โกนหนวดและขนคิ้วออกให้หมด และต้องซักเสื้อผ้าใหม่ และอาบน้ำชำระร่างกาย แล้วเขาจะเป็นคนบริสุทธิ์

10 ในวันที่แปด คนๆนั้นต้องเอาลูกแกะตัวผู้สองตัวที่ไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิมาตัวหนึ่ง แป้งสาลีอย่างดีประมาณหกลิตรครึ่งผสมกับน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร 11 นักบวชที่จะทำพิธีชำระล้าง ต้องนำคนที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ พร้อมกับเครื่องบูชาเหล่านี้ มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 12 แล้วนักบวชต้องเอาลูกแกะตัวผู้มาตัวหนึ่ง ถวายเป็นของถวายชดใช้ และนำน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร มายกขึ้นให้เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 13 เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวนั้นในบริเวณพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้สำหรับฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างและเครื่องเผาบูชา เพราะของถวายชดใช้นี้เป็นเหมือนเครื่องบูชาชำระล้าง มันจะเป็นของนักบวช เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

14 นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งจากของถวายชดใช้ มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา พร้อมกับหัวแม่มือกับหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง 15 นักบวชจะแบ่งน้ำมันมะกอกที่มีอยู่ประมาณหนึ่งในสามลิตรนั้น แล้วเทใส่ฝ่ามือซ้ายของตัวเขาเอง 16 แล้วนักบวชจะเอานิ้วข้างขวาของเขาจุ่มลงในน้ำมันที่อยู่บนฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง 17 น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือนักบวช เขาก็จะเอาไปแต้มที่ติ่งหูด้านขวา นิ้วหัวแม่มือด้านขวา และนิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับรอยเลือดจากของถวายชดใช้ที่แต้มไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 18 น้ำมันที่เหลือทั้งหมดบนฝ่ามือของนักบวช เขาก็จะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง ด้วยวิธีนี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะกำจัดบาปหนึ่งบาปใดแทนคนๆนั้นที่เขาได้ทำไปต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์

19 แล้วนักบวชจะถวายเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนคนๆนั้นที่กำลังได้รับการชำระจากความไม่บริสุทธิ์ของเขา หลังจากนั้น นักบวชก็จะฆ่าเครื่องเผาบูชา 20 แล้วนักบวชก็จะถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชบนแท่นบูชา และด้วยวิธีนี้นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีขึ้นสำหรับคนนั้น และคนนั้นก็จะบริสุทธิ์

21 แต่ถ้าคนที่จะรับการชำระล้างนั้นยากจน ไม่สามารถหาของถวายพวกนั้นมาได้ ก็ให้เขาเอาลูกแกะมาตัวหนึ่ง เป็นของถวายชดใช้ มันจะเป็นเครื่องยื่นบูชาสำหรับเขา เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์ เขาต้องเอาแป้งอย่างดีมาประมาณสองลิตร ผสมน้ำมัน เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร 22 และเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาสามารถให้ได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวใช้เป็นเครื่องเผาบูชา

23 คนที่จะรับการชำระล้าง ต้องนำเครื่องบูชาเหล่านี้มาให้นักบวชในวันที่แปด เพื่อนักบวชจะทำพิธีชำระล้างให้กับเขา ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์ 24 แล้วนักบวชจะเอาลูกแกะมาเป็นของถวายชดใช้ พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร และนักบวชจะถวายพวกมันเป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 25 แล้วนักบวชก็จะฆ่าลูกแกะที่เป็นของถวายชดใช้ตัวนั้น นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งของมัน มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวา และหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง 26 จากนั้นนักบวชจะเทน้ำมันส่วนหนึ่งใส่ฝ่ามือซ้ายของตนเอง 27 แล้วใช้นิ้วมือข้างขวาจุ่มน้ำมันที่อยู่ในฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง 28 แล้วนักบวชจะเอาน้ำมันส่วนหนึ่งจากฝ่ามือ ไปแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวาและหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับไปบนรอยเลือดที่มาจากของถวายชดใช้ ที่แต้มอยู่ก่อนแล้ว 29 น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือของนักบวช เขาจะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์แทนเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์

30 จากนั้นนักบวชจะถวายนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่คนนั้นสามารถให้ได้ 31 ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา พร้อมๆกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ด้วยวิธีนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีกันขึ้นเพื่อเขาคนนั้นที่กำลังได้รับการชำระล้าง

32 นั่นคือกฎสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรง ที่ไม่สามารถหาเครื่องบูชาที่ใช้กันตามปกติสำหรับพิธีการชำระล้างของเขา”

กฎสำหรับเชื้อราในบ้าน

33 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า 34 “เมื่อพวกเจ้าเข้าสู่แผ่นดินคานาอันที่เรากำลังให้เป็นสมบัติของเจ้า และเราได้ทำให้เกิดเชื้อรา[b] ในบ้านเรือน บนแผ่นดินที่เจ้าเป็นเจ้าของนั้น 35 เจ้าของบ้านหลังนั้นต้องไปบอกนักบวชว่า ‘ผมพบสิ่งที่ดูเหมือนเชื้อราในบ้านของผม’

36 นักบวชต้องสั่งพวกเขาให้ขนของออกจากบ้านให้หมด ก่อนที่นักบวชจะไปตรวจดูเชื้อรานั้น ไม่อย่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหลังนั้นจะไม่บริสุทธิ์ แล้วนักบวชจะมาตรวจดูบ้านหลังนั้น 37 เขาจะตรวจสอบดูเชื้อรานั้น ถ้าเชื้อราบนกำแพงบ้านเป็นจุดสีแดงหรือสีเขียวและดูเหมือนมันฝังลึกลงในกำแพง 38 นักบวชต้องออกมายืนที่ทางเข้าบ้านหลังนั้นและปิดบ้านหลังนั้นไว้เป็นเวลาเจ็ดวัน

39 ในวันที่เจ็ด นักบวชต้องกลับไปตรวจดูบ้านหลังนั้นใหม่ ถ้าเชื้อราบนกำแพงกระจายออกไป 40 นักบวชต้องออกคำสั่งให้คนกะเทาะหินส่วนที่เป็นเชื้อรานั้นออกมาและขว้างทิ้งไปที่นอกเมืองในสถานที่ไม่บริสุทธิ์ 41 แล้วนักบวชต้องสั่งให้พวกเขาขัดถูภายในบ้านให้ทั่วและนำผงปูน[c] ที่เขาขัดออกมานั้น ไปเททิ้งนอกเมืองในสถานที่ไม่บริสุทธิ์ 42 แล้วหาหินก้อนใหม่มาวางแทนหินก้อนเดิม และฉาบปูนทับหินก้อนใหม่และทั้งบ้าน

43 ถ้าเชื้อรากลับมาอีกและกระจายไปทั่วบ้านหลังจากหินที่เป็นเชื้อราถูกกะเทาะออกและบ้านก็ถูกขัดถูและฉาบปูนใหม่แล้ว 44 นักบวชต้องมาตรวจสอบดูอีก ถ้ารากระจายในบ้าน มันจะทำลายข้าวของในบ้าน บ้านก็จะไม่บริสุทธิ์ 45 บ้านหลังนั้นต้องถูกรื้อทิ้งทั้งส่วนที่เป็นหิน ไม้และปูนที่ฉาบทั้งหมด และนำไปทิ้งนอกเมืองในสถานที่ไม่บริสุทธิ์ 46 ใครที่เข้าไปในบ้านในช่วงที่ถูกปิดอยู่ จะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น 47 ใครที่เข้าไปนอนหรือไปกินในบ้านหลังนั้นต้องเอาเสื้อที่ใส่ไปซัก

48 แต่ถ้านักบวชมาตรวจสอบบ้านหลังนั้น และเห็นว่าราไม่ได้แพร่กระจายไปในบ้าน หลังจากที่ได้ฉาบปูนบ้านหลังนั้นแล้ว นักบวชจะประกาศว่าบ้านหลังนั้นบริสุทธิ์ เพราะเชื้อราหายไปแล้ว

49 การทำพิธีชำระล้างให้บ้าน นักบวชต้องใช้นกสองตัว ไม้สน เชือกสีแดงและกิ่งหุสบ 50 เขาต้องฆ่านกตัวหนึ่งในชามดินเผาที่อยู่เหนือน้ำที่ไหลอยู่ 51 เขาต้องนำไม้สน กิ่งหุสบ เชือกแดงและนกตัวที่ยังมีชีวิต เอาทั้งหมดนี้จุ่มลงในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่า และในน้ำที่ไหลนั้น แล้วเอาไปพรมบ้านนั้นเจ็ดครั้ง 52 ด้วยวิธีนี้ นักบวชจะทำให้บ้านนั้นบริสุทธิ์ด้วยเลือดนก ด้วยน้ำที่ไหล และด้วยนกเป็นๆตัวนั้น ไม้สน กิ่งหุสบ และเชือกแดง 53 แล้วนักบวชก็จะปล่อยนกเป็นๆตัวนั้น นอกเมืองในท้องทุ่ง ด้วยวิธีนี้ นักบวชจะชำระล้างบ้านนั้น แล้วมันก็จะบริสุทธิ์

54 นี่จะเป็นกฎสำหรับโรคผิวหนังร้ายแรงทุกชนิด สำหรับขี้กราก 55 สำหรับเชื้อราบนผ้าหรือในบ้าน 56 สำหรับแผลบวมอักเสบ แผลตกสะเก็ด หรือตุ่มน้ำใสบนผิวหนัง 57 กฎเหล่านี้ สอนให้รู้ว่า อะไรบริสุทธิ์และอะไรไม่บริสุทธิ์ กฎพวกนี้เกี่ยวกับโรคผิวหนังและเชื้อรา”

Footnotes

  1. 14:4 หุสบ เป็นพืชที่มีกิ่งก้านและใบเล็กๆมากมาย ใช้สำหรับปะพรมเลือดหรือน้ำ ในพิธีชำระให้บริสุทธิ์
  2. 14:34 เชื้อรา เชื้อประเภทหนึ่งที่เกิดบนผ้า หนังหรือไม้ที่อยู่ในที่ร้อนชื้น ในภาษาฮีบรูยังหมายถึงโรคผิวหนังด้วย
  3. 14:41 ผงปูน มาจากโคลนหรือปูนที่ประชาชนใช้ฉาบกำแพงเพื่อทำให้เรียบ